ห้องปฏิบัติการถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของงานวิจัยไดโนเสาร์
สำหรับพิพิธภัณฑ์สิรินธร ห้องปฏิบัติการกลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดง เพราะตั้งอยู่ในเส้นทางที่ผู้เข้าชมเดินผ่าน และผนังทั้งบานเป็นกระจกใส จึงสามารถมองเห็นการทำงานของบรรดานักวิทยาศาสตร์ได้อย่างชัดเจน
เราจะได้เห็นฟอสซิลกระดูกส่วนต่างๆ ของไดโนเสาร์นานาชนิดที่ขุดพบในประเทศไทย วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะแต่ละตัวจนดูละลานตา เช่น กระดูกสะโพกและกระดูกต้นขาชิ้นมหึมาของ ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน หรือกระดูกโคนหางของ สยามโมไทรันนัส อีสานเอนซิส
เมื่อฟ
|
ช่วงต้นของเส้นทางเดินชมนิทรรศการของพิพิธภัณฑ์สิรินธร เราจะเห็นลายเส้นตารางสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ฝังอยู่บนพื้น มันคือมาตราธรณีกาล (Geological Time Scale) ที่ใช้ลำดับอายุทางธรณีวิทยา นับแต่โลกกำเนิดขึ้นเมื่อ 4,600 ล้านปีก่อนจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งช่วงเวลาออกเป็น บรมยุค มหายุค ยุค และสมัย ตามลำดับ
ดังนั้นในตารางสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ จึงมีลายเส้นตัดกันเป็นช่องย่อยๆ แบ่งตามช่วงเวลาดังกล่าว ในแต่ละช่องยังมีสัญลักษณ์รูปพืชและสัตว์ชนิดต่างๆ ซึ่งกำเนิดขึ้นในเวลานั้นอีกด้วย
เมื่อเราก้าวย่างผ่านมาตราธรณีก
|
สำหรับผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์แล้ว สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดน่าจะได้แก่โครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดมหึมาที่ยืนตระหง่านอยู่ต่อหน้าเขานั่นเอง
พิพิธภัณฑ์สิรินธรจัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ประมาณ 20 ชนิด ส่วนใหญ่สั่งซื้อจากต่างประเทศ แต่ที่โดดเด่นกว่าเพื่อนเนื่องจากมีขนาดใหญ่ และยังเป็นฟอสซิลที่ขุดพบในเมืองไทย ก็คือโครงกระดูกของภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน ตามปรกติโครงกระดูกไดโนเสาร์ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ล้วนเป็นแบบจำลอง โดยเก็บฟอสซิลของจริงไว้ในห้องปฏิบัติการ เพื่อความปลอดภัย และใช้สำหรับงานวิจัย
การทำ
|