เดินชมป่าชายเลน
พื้นที่ปากน้ำเวฬุซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 ปกคลุมด้วยป่าชายเลนผืนใหญ่อีกแห่งของประเทศไทย ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไม่ควรพลาดการเดินชมป่าชายเลน ซึ่งถือเป็นกิจกรรมเด่นของที่นี่
เส้นทางเดินชมป่าชายเลนมีระยะทางประมาณ 1,200 เมตร สร้างเป็นทางเดินสะพานไม้ทอดผ่านพันธุ์ไม้ป่าชายเลนนานาชนิด ตลอดเส้นทางยังมีจุดแวะพักเป็นศาลา 6 แห่ง ศาลาแต่ละหลังจัดทำบอร์ดแสดงภาพถ่ายและข้อมูลความรู้เกี่ยวกับป่าชายเลนในแง่มุมต่างๆ
สิ่งที่ทำให้ป่าชายเลนมีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากป่าประเภทอื่น ก็เพราะเป็นสังคมพืชที่ขึ้นอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างแผ่นดินกับผืนน้ำ ในสภาพแวดล้อมที่เป็นดินเลน น้ำกร่อย และมีน้ำทะเลท่วมถึงอย่างสม่ำเสมอ เช่น บริเวณชายฝั่งทะเล ปากแม่น้ำ หรือทะเลสาบ ในบางพื้นที่ยังมีลมแรงและแดดจัด พันธุ์พืชป่าชายเลนจึงต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงลักษณะของระบบราก ลำต้น ใบ ดอก และผลให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่
เมื่อเราเดินไปตามสะพานไม้ ลักษณะแปลกตาของพันธุ์ไม้ป่าชายเลนที่สังเกตเห็นอันดับแรก ก็คือดงต้นโกงกางที่มีรากยื่นจากโคนลำต้นลงมาค้ำยันกับพื้นดินเลน ดูเป็นเส้นสายโค้งยุบยั่บเต็มไปหมดราวกับขาแมลงมุม ทั้งนี้เพราะต้นโกงกางมีการปรับโครงสร้างรากให้เป็นรากค้ำยัน เพื่อช่วยให้ทรงตัวอยู่ได้ในบริเวณชายฝั่งดินเลนที่มีคลื่นลมแรง
ขณะที่พันธุ์ไม้ชนิดอื่น เช่น แสม ลำพู ลำแพน ก็ปรับตัวให้มีรากหายใจ ที่งอกเป็นรากเล็กๆ ขึ้นเหนือพื้นดิน เนื่องจากใต้ผิวดินไม่มีอากาศเพียงพอ
พันธุ์ไม้ป่าชายเลนสองข้างทางสะพานไม้มีให้เราได้สังเกตนานาชนิด ไม่ว่า โกงกางใบใหญ่ โกงกางใบเล็ก พังกาหัวสุมดอกแดง ประสักดอกแดง ตะบูนขาว เสม็ดขาว ลำพู แสมขาว นอกจากนั้น มองลงไปที่พื้นดินเลนสีคล้ำมีน้ำขังเป็นแอ่ง อาจพบเห็นสัตว์น่าตาประหลาดแต่น่ารักอย่างปลาตีน รวมทั้งสัตว์น้ำอื่นเช่นหอยหรือปูชนิดต่างๆ
การเดินชมพันธุ์พืชและสัตว์ป่าชายเลนช่วยให้เราเพลิดเพลิน แต่รู้หรือไม่ว่าป่าชายเลนยังมีประโยชน์มหาศาลต่อระบบนิเวศ ไม่ว่าเป็นแหล่งสะสมอาหารที่สำคัญ จากเศษซากใบไม้ที่ร่วงหล่นทับถมเป็นธาตุอาหารอันอุดม ชักนำสัตว์น้ำนานาชนิดเข้ามาอาศัยหากิน
นอกจากนั้นในบริเวณป่าชายเลนยังมีร่มเงาและรากไม้ต่างๆ ช่วยป้องกันความรุนแรงของกระแสลมและคลื่นที่เข้าปะทะ กระแสน้ำในบริเวณป่าชายเลนจึงค่อนข้างสงบ เหมาะแก่การวางไข่และเป็นแหล่งเจริญเติบโตของสัตว์น้ำวัยอ่อนได้ดี ในป่าชายเลนจึงเป็นแหล่งที่พบสัตว์หลากชนิด ไม่ว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน นก และสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เช่น กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย หอยนางรม หอยแมลงภู่ หอยแครง ปูทะเล ปลาเก๋า ปลากระบอก ปลากะพงขาว
ลองไปเดินชมธรรมชาติในเส้นทางป่าชายเลนนี้สักเที่ยว นอกจากได้รับความเพลิดเพลินแล้ว ยังช่วยให้เราได้รู้คุณค่าของธรรมชาติเพิ่มขึ้นอีกด้วย