You are here

วัดราชบูรณะ

Share:  

วัดราชบูรณะ

เป็นหนึ่งในวัดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในอยุธยา ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาระบุว่า สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 (เจ้าสามพระยา) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดราชบูรณะขึ้นในปี พ.ศ. 1967 ตรงบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระศพเจ้าอ้ายพระยาและเจ้ายี่พระยา พระเชษฐาของพระองค์ ที่สิ้นพระชนม์จากการรบเพื่อแย่งชิงราชสมบัติกัน
เมื่อเข้าสู่บริเวณวัดจะเห็นว่ามีแผนผังการก่อสร้างเป็นคติสมัยอยุธยาตอนต้นเหมือนที่วัดมหาธาตุ นั่นคือการวางตำแหน่งให้พระวิหารอยู่ด้านหน้าปรางค์ประธาน โดยมีพระอุโบสถอยู่ด้านหลัง และทั้งหมดอยู่ในแนวระนาบเดียวกัน
สิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดเมื่อมาถึงวัดนี้ก็คือ เข้าไปดูกรุในองค์ปรางค์ประธาน แต่ก่อนเดินขึ้นสู่องค์ปรางค์ ควรหยุดชื่นชมความสมบูรณ์ขององค์ปรางค์กันสักนิด เพราะหากนึกภาพปรางค์ประธานวัดมหาธาตุไม่ออก ก็ลองดูจากที่วัดราชบูรณะนี้ได้ นอกจากนี้องค์ปรางค์ยังเป็นเจดีย์สมัยอยุธยาตอนต้นที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ โดยถูกเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด จึงนับเป็นตัวอย่างงานศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนต้นแท้ๆ ที่หาชมได้ยาก
ที่ยอดปรางค์ชั้นล่างมีการประดับปูนปั้นรูปครุฑ ยักษ์ และเทพ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งชั้นระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ ตามคติเกี่ยวกับเขาพระสุเมรุ ส่วนปูนปั้นรูปยักษ์แบกที่ฐานปรางค์ประธานนั้น มาจากแนวคิดของสถาปัตยกรรมไทยเชื่อกันว่าเป็นการค้ำจุนพุทธศาสนานั่นเอง
ทีนี้ก็ถึงเวลาค่อยๆ ไต่บันไดขึ้นสู่ตัวปรางค์ เข้าไปยังห้องคูหา พักปรับสายตาเล็กน้อยเพราะภายในค่อนข้างสลัว แล้วค่อยไต่บันไดลงไปสำรวจกรุที่มี 3 ห้อง เรียงกันลงไปตามแนวดิ่งซึ่งอยู่ลึกลงไปถึงระดับพื้นดิน
กรุชั้นที่ 1 เป็นชั้นที่อยู่บนสุด ชั้นนี้พบพระพิมพ์มาบรรจุถวายเป็นพุทธบูชา ทั้งพุทธศิลป์แบบสุโขทัย ลพบุรี สุพรรณบุรี อายุตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 19 – 20 มาร่วมบรรจุกรุไว้มากมาย ที่ผนังมีภาพเขียนสีฝุ่น ที่เหลือและยังพอเห็นได้เป็นภาพกลุ่มคนจีน ภาพเทพชุมนุม เซี่ยวกาง นักรบ ลายพันธุ์พฤกษา ลองมองหาดูว่าเห็นได้ครบตามนี้หรือไม่
กรุชั้นที่ 2 พบเครื่องทองนานาชนิด รวมทั้งเครื่องราชกุธภัณฑ์ และเครื่องราชูปโภคของพระมหากษัตริย์ ผนังมีจิตรกรรมภาพอดีตชาติพระพุทธเจ้า 24 พระองค์ ตามคติความเชื่อตามนิกายลังกาวงศ์ ภาพเหล่านี้วาดอยู่ในช่องสี่เหลี่ยม โดยใช้สีแดงชาด ตัดเส้นด้วยสีดำและปิดทอง การชมภาพที่ห้องนี้อาจดูยากสักนิดเพราะภาพอยู่สูง และขณะที่แหงนหน้าขึ้นดูภาพจิตรกรรมต่างๆ นั้น มองเลยขึ้นไปจะเห็นดาวเพดาน ซึ่งเป็นช่องทางที่ขโมยใช้ลงมายังกรุชั้นนี้
กรุห้องที่ 3 ถือเป็นห้องสำคัญที่สุด ชั้นนี้พบพระปรางค์จำลองและสถูปพระบรมสารีริกธาตุ รวมทั้งลวดลายดุนทองของสัตว์และภาพมงคล อันยืนยันได้ว่า นี่คือสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุแห่งพระพุทธองค์โดยแท้ รอบๆยังเต็มไปด้วยพระพุทธรูปต่างๆ อยากเห็นสถูปองค์จริงและสมบัติขอชาติทั้งหลายที่พบในกรุวัดราชบูรณะนี้ ต้องไปชมที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา
หากยังพอมีเวลาก็ควรเดินสำรวจดูให้ทั่ววัด ค่อยๆ ซึมซับความรุ่งเรืองของวัดนี้ไปทีละน้อยๆ ก็จะได้ความเต็มอิ่มในการชมโบราณสถานแห่งนี้

วัดราชบูรณะ

ตั้งอยู่อยู่เชิงสะพานป่าถ่าน ตรงข้ามวัดมหาธาตุ ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ไม่เสียค่าเข้าชม ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30น.- 21.00น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถาน