Trip Planning
จันทบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 245 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดจันทบุรีได้ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัวและรถประจำทาง
โดยรถยนต์ จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 5 เส้นทาง คือ
1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี บางแสน อำเภอศรีราชา พัทยา อำเภอสัตหีบ อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง จนถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางประมาณ 330 กิโลเมตร
2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 (บางนา-บางปะกง) และทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) จนถึงอำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี บริเวณกิโลเมตรที่ 98 แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (ชลบุรี-แกลง) ผ่านอำเภอบ้านบึง อำเภอวังจันทร์ และอำเภอแกลง ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3 ต่อไปอีกประมาณ 58 กิโลเมตร จนถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางประมาณ 266 กิโลเมตร
3. ใช้ทางหลวงหมายเลข 34 (บางนา-บางปะกง) และทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) จนถึงกิโลเมตรที่ 140 แยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 36 ที่อำเภอบางละมุง ไปต่ออีกประมาณ 60 กิโลเมตร จนถึงอำเภอเมืองฯ จังหวัดระยอง แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) ต่อไปอีกประมาณ 108 กิโลเมตร จนถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางประมาณ 308 กิโลเมตร
4. ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี หรือมอเตอร์เวย์) ไปจนถึงเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 90 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 36 อีกประมาณ 50 กิโลเมตร จนถึงอำเภอเมืองฯ จังหวัดระยอง แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) ต่อไปอีกประมาณ 108 กิโลเมตร จนถึงจังหวัดจันทบุรี รวมระยะทางประมาณ 248 กิโลเมตร
5. ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี หรือมอเตอร์เวย์) ไปจนถึงอำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี จากนั้นแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (ชลบุรี-แกลง) ผ่านอำเภอบ้านบึง อำเภอวังจันทร์ และอำเภอแกลง ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3 ต่อไปอีกประมาณ 58 กิโลเมตร จนถึงจังหวัดจันทบุรี
โดยรถประจำทาง
มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-จันทบุรี ออกจากสถานีขนส่งสายตะวันออก หรือเอกมัย ถนนสุขุมวิท และสถานีขนส่งสายเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ หรือหมอชิต 2 ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัท ขนส่ง จำกัด โทร.1490 www.transport.co.th
ปัจจุบันบริษัท ขนส่ง จำกัด ได้เปิดให้บริการจองตั๋วรถโดยสารออนไลน์แล้ว ติดต่อได้ที่ www.thaiticketmajor.com นอกจากนี้ยังสามารถซื้อตั๋วออนไลน์ได้ที่ไทยรูท ดอทคอม www.thairoute.com
การเดินทางภายในจังหวัดจันทบุรี
ในตัวจังหวัดจันทบุรีมีรถชนิดต่างๆ ให้บริการ นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการยานพาหนะต่างๆ ได้หลายรูปแบบตามความเหมาะสม
รถสองแถว มีวิ่งบริการจากสถานีขนส่งไปยังที่ต่างๆ ในตัวเมือง นักท่องเที่ยวอาจเหมารถสองแถวไปเที่ยวได้ทั้งในเมืองและต่างอำเภอ คิดราคาวันละ 1,000-2,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทางและการต่อรอง
รถสามล้อเครื่องและมอเตอร์ไซค์รับจ้าง จอดอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด เช่น หน้าตลาดเทศบาล หน้าสถานีขนส่ง ค่าบริการมีทั้งแบบตกลงกันตามแต่ระยะทางและแบบเหมาจ่าย
ระยะทางจากอำเภอเมืองจันทบุรีไปยังอำเภอขลุง คือ 15 กิโลเมตร
Area Map
History & Info
สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ปากแม่น้ำเวฬุของอำเภอขลุง ซึ่งปกคลุมด้วยแนวผืนป่าชายเลนเนื้อที่กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี ซึ่งกลุ่มคนรักธรรมชาติสามารถมาสัมผัสเรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลน หรือพักผ่อนหย่อนใจกับกิจกรรมท่องเที่ยวดีๆ และน่าสนใจหลากหลายรูปแบบ
ดังเช่นการเดินชมพันธุ์ไม้ป่าชายเลน ซึ่งมีการสร้างเส้นทางเป็นสะพานไม้ทอดผ่านเข้าไปในป่าชายเลน ตลอดสองข้างทางจะได้พบกับสัตว์น้ำและพันธุ์ไม้ป่าชายเลนนานาชนิด นอกจากนันยังมีศาลาที่พักระหว่างทางอีก 6 ศาลา แต่ละศาลาติดตั้งบอร์ดแสดงภาพและข้อความสื่อความหมายให้ความรู้ด้านต่างๆ ของระบบนิเวศน์ป่าชายเลนอีกด้วย
หรือชมนกน้ำในบริเวณระบบนิเวศน์ที่เป็นทุ่งหญ้า ซึ่งมีตะกาดหรือหาดทรายผืนเล็กๆ และมีแหล่งน้ำทำให้นกชนิดต่างๆ เข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก โดยสถานีฯ ยังมีกล้องดูนกแบบ 2 ตา (Binocular) และแบบตาเดียว (Scope) ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว แต่แนะนำว่าควรมาดูในฤดูหนาว ซึ่งสามารถพบเห็นนกอพยพได้มากชนิด
นอกจากนี้ทางสถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 2 ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกหลายอย่าง อาทิ พายเรือคายัคชมป่าชายเลน หรือขี่จักรยานสูดอากาศบริสุทธิ์ เพื่อส่งเสริมให้มีการออกกำลังกาย ควบคู่กับการชมธรรมชาติป่าชายเลน ไปตามระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร
กิจกรรมที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือการนั่งเรือไปชมเหยี่ยวแดงคอขาวที่หมู่บ้านเลนตัก ระยะทางประมาณ 6-7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวครึ่งชั่วโมง ระหว่างทางจะได้เพลิดเพลินกับการชมทิวทัศน์ปากแม่น้ำเวฬุยามเย็น และแนวป่าชายเลนริมฝั่ง รวมถึงวิถีชีวิตชาวบ้านที่ทำประมงเลี้ยงชีพในแม่น้ำปากอ่าว ทั้งยกยอ วางอวน เก็บกู้โพงพางดักสัตว์น้ำ หรือเลี้ยงปลาในกะชัง
ก่อนจะตื่นตาตื่นใจกับฝูงเหยี่ยวแดงคอขาวจำนวนมากที่บินร่อนอยู่บนท้องฟ้า หรือขณะมันทิ้งดิ่งลงมาจับเหยื่อบนผิวน้ำ ทั้งนี้เพราะหมู่บ้านเลนตัก หรือที่เรียกกันว่าหมู่บ้านเกาะนก เป็นถิ่นอาศัยที่เชื่อกันว่ามีเหยี่ยวแดงคอขาวอยู่ถึง 500-1,000 ตัว จึงสามารถมาชมเหยี่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยพวกมันจะออกจากรังไปหากินตั้งแต่เช้ามืด และกลับมาอีกทีในช่วง 4-5 โมงเย็น
กลับจากนั่งเรือชมเหยี่ยงคงเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว ยังมีกิจกรรมสำคัญรออยู่คือการชมหิ่งห้อย เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้หิ่งห้อยมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีถนนที่ตัดผ่านเข้าไปในป่าชายเลนช่วยให้การชมหิ่งห้อยทำได้สะดวก ปลอดภัย สามารถหยุดชมได้เป็นเวลานาน ใครที่ได้เห็นหิ่งห้อยนับร้อยนับพันตัวกะพริบแสงระยิบระยับพราวอยู่ตามแนวไม้ในความมืดตลอดเส้นทาง รับรองว่าจะประทับใจไปอีกนาน
Direction Map
Information
รู้จักจันทบุรี
จังหวัดจันทบุรีอยู่ในกลุ่มเมืองท่องเที่ยวชายทะเลฝั่งตะวันออกของไทย ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 2 ชม.เศษ เนื่องจากถนนมีสภาพดี สามารถขับรถได้อย่างสะดวกสบาย
สภาพภูมิประเทศของจันทบุรีเป็นภูเขาถึงหนึ่งในสี่ของจังหวัด เทือกเขาแต่ละแห่งปกคลุมด้วยผืนป่าดิบชื้นสมบูรณ์ เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกและแม่น้ำลำคลองหลายสาย เช่น แม่น้ำจันทบุรี แม่น้ำเวฬุ ทั้งยังมีชายฝั่งทะเลยาว 108 กม. ในบริเวณพื้นที่น้ำกร่อยก็ปกคลุมด้วยแนวป่าชายเลนหลายหมื่นไร่
มีหลักฐานว่าจันทบุรีเป็นเมืองโบราณมาตั้งแต่สมัยขอมเรืองอำนาจ ต่อมาในสมัยอยุธยา ปรากฏชื่อเมือง “จันทรบูร” ในฐานะเมืองประเทศราชของกรุงศรีอยุธยา ภายหลังกรุงศรีอยุธยาเสียแก่กองทัพพม่าในปี พ.ศ. 2310 หัวเมืองทางตะวันออกแห่งนี้จึงเริ่มมีความสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของไทย เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้เป็นฐานที่มั่นรวบรวมกำลังพลและเสบียงอาหาร ก่อนบุกไปตีกรุงศรีอยุธยาคืนจากพม่า กระทั่งในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ จันบุรีก็มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านและหัวเมืองการค้า เพราะทำเลที่ตั้งบริเวณปากอ่าว สะดวกแก่การติดต่อค้าขายทางเรือกับต่างประเทศ
จังหวัดจันทบุรีในปัจจุบันเป็นเมืองที่มีของดีมากมาย ทั้งในแง่ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เป็นแหล่งขุดพบพลอยนานาชนิด ทั้งพลอยแดง (ทับทิม) พลอยเขียว พลอยน้ำเงิน พลอยไพลิน บุษราคัม และมรกต กระทั่งเกิดการทำเหมืองและธุรกิจค้าพลอยเฟื่องฟูอย่างมาก แม้ว่าปัจจุบันปริมาณพลอยที่ถูกขุดพบจะเหลือไม่มากแล้วก็ตาม แต่จันทบุรียังเป็นแหล่งเจียระไนพลอยที่มีชื่อเสียง และมีย่านค้าพลอยขนาดใหญ่อยู่กลางเมือง
จันทบุรียังได้ชื่อเป็นเมืองผลไม้ เนื่องจากผืนดินอุดมด้วยแร่ธาตุจากดินตะกอนแม่น้ำ จึงปลูกพืชและไม้ผลเจริญงอกงามได้อย่างดี เช่น เงาะ สละ มังคุด ทุเรียน ฯลฯ จนมีการเปิดสวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและชิมผลไม้ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งอาหารการกินชั้นดี ทั้งอาหารทะเลสดๆ หรืออาหารพื้นบ้านที่รสชาติโดดเด่นด้วยเครื่องเทศเผ็ดร้อน เช่น กระวาน กานพลู เร่ว ฯลฯ โดยเฉพาะพริกไทยจันทบูรที่มีกลิ่นหอมฉุนเป็นเลิศ
ส่วนด้านการท่องเที่ยว จันทบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าเที่ยวป่าชมธรรมชาติในเขตอุทยานแห่งชาติต่างๆ เที่ยวน้ำตก เช่น ที่น้ำตกพลิ้ว น้ำตกเขาสอยดาว ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะแก่ง หรือแหล่งท่องเที่ยวศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในตัวเมือง เช่น ชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งประกอบไปด้วยบ้านเรือนในย่านเก่าท่าหลวงที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม ศูนย์วัฒนธรรมจันทบุรี โบสถ์แม่พระปฏิสนธินิรมล เป็นต้น